การรีวิว Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนตระกูลพรีเมียมของ Xiaomi บอกเราว่าเราได้เผชิญกับความท้าทายใหม่แล้ว ด้วยสเปคที่รวดเร็วและครบถ้วนที่สุด ด้วยหน้าจอ 90Hz AMOLED ที่ขับเคลื่อนโดย Snapdragon 680 ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 33W พร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล แต่ยังคงมี การใช้ฟังก์ชันระดับบนสุด วันนี้จะมีอะไรบ้าง? saimmobile.com ผมจะพาไปชมรีวิวฉบับเต็มครับ
สรุปสเปค Redmi Note 11
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.87 x 73.87 x 8.09 มม.
- น้ำหนัก : 179 กรัม
- ป้องกันละอองน้ำมาตรฐาน IP53
- หน้าจอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), Refresh Rate สูงสุด 90Hz, Touch Sampling rate 180Hz และความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz
- RAM : 4/6GB
- ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มุมกว้าง 118 องศา
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13.0.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และใช้พอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 33W Pro
การออกแบบด้านระดับพรีเมียม
ฉันต้องบอกว่านับตั้งแต่ฉันได้สัมผัสอุปกรณ์ Redmi Note 11 ครั้งแรกฉันรู้สึกประทับใจมาก วัสดุฝาหลังเคลือบด้านคุณภาพสูงไม่เกิดรอยนิ้วมือ แม้วัสดุจะเป็นพลาสติกแต่เมื่อประกอบแล้วดูแข็งแรงมาก สีน้ำเงินเข้มทไวไลท์บลูที่เรารีวิวในครั้งนี้มีความรู้สึกมืดมนและลึกลับ และสีก็มีความเงาอ่อน ๆ อีกด้วย และที่สำคัญเมื่อเราลองสัมผัสฝาหลังก็มีชิมเมอร์เล็กน้อย การประกอบของ Redmi Note 11 สามารถกันน้ำได้สบายตามมาตรฐาน IP53 เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เป็นไปไม่ได้ (ไม่แนะนำให้เล่นน้ำ)
หน้าจอ AMOLED หน้าจอ 90Hz
หน้าจอของรุ่นนี้ก็ดีที่สุดเช่นกันโดยใช้หน้าจอ AMOLED ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีขนาดใหญ่ถึง 6.43 นิ้ว ประกอบกับความละเอียด FHD+ ทำให้เราสามารถรับชมวิดีโอได้ทุกประเภท สีสดใสสดใสสดใสสอดคล้องกับสไตล์หน้าจอ AMOLED ความสว่างหน้าจอสามารถสูงถึง 1,000 nits และยังใช้งานได้สบายมากเมื่อใช้งานกลางแจ้ง สิ่งสำคัญคือการรองรับอัตราการรีเฟรช 90Hz ถือและทำงานในมือได้ง่ายมากเมื่อเล่นเกมคุณจะเห็นกล้องหน้าแบบเจาะรูตรงกลางด้านบนของหน้าจอและ a ลำโพงตัวที่สองอยู่ด้านบน รีวิว Redmi Note 11 มีถาดใส่ซิมการ์ดและการ์ด MicroSD แบบ 3 ช่องทางด้านซ้ายซึ่งสามารถรองรับซิมการ์ดได้ 2 อันและการ์ด MicroSD อีกอัน และด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียงบวกและลบและปุ่มเปิดปิด รองรับการสแกนลายนิ้วมือ ดีไซน์คล้ายปุ่ม Power ทั่วไป ไม่ยุบตัวลงในเครื่องเหมือนรุ่นอื่นๆ ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดจากเซ็นเซอร์ IR Blaster และไมโครโฟนตัวที่สอง มีไมโครโฟนตัวแรก, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวแรกที่ด้านล่าง และมีโมดูลกล้องที่มุมซ้ายบนที่ด้านหลังของอุปกรณ์ มาพร้อมกล้อง 4 ตัว 1 เลนส์ 1 แฟลช และสโลแกน “50MP AI CAMERA”
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Redmi Note 11 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 11 ตั้งแต่แกะกล่อง ครอบคลุมเวอร์ชัน MIUI 13 13.0.1 ซึ่งมีความเสถียรในการใช้งานมาก นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันบางอย่างที่เราลองใช้ร่วมกันได้และยังรองรับ Always-On Display อีกด้วย
แม้ว่าจะเป็นรุ่นระดับกลาง แต่ก็มีฟังก์ชันแสดงผลตลอดเวลาเหมือนรุ่นเรือธงทั่วไป เราสามารถเปิดดูข้อมูลพื้นฐาน เช่น เวลา วันที่ และพลังงานคงเหลือได้ ประกอบด้วยไอคอนแอปพลิเคชันที่ได้รับการแจ้งเตือน เรายังปรับแต่งความสวยงามหรือข้อความที่จะแสดงได้อีกด้วย บอกเลยว่ามีให้เลือกมากมาย ลำโพงสเตอริโอคู่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Redmi Note 11 สำหรับเราและสายบันเทิงคงจะชอบตรงที่มีลำโพงคู่ที่สามารถแยกแยะเสียงซ้ายและขวาได้ชัดเจนมาก นอกจากนี้ความนิยมยังสูงมากอีกด้วย มีใครเล่นเกม FPS หรือภาพยนตร์บนบริการสตรีมมิ่งต่างๆ บ้างไหม? มันจะอร่อยยิ่งขึ้น
ระบบรักษาความปลอดภัย
Redmi Note 11 มีระบบความปลอดภัยหลักสองระบบให้เลือก ได้แก่ เครื่องสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างของอุปกรณ์ ความเสถียรและความแม่นยำจึงไร้กังวล เพราะมันทำได้ดีมาก ฉันไม่พบข้อผิดพลาดใด ๆ ตั้งแต่ฉันลองแล้ว
สรุปการใช้งาน
หลังจากทดสอบรีวิว Redmi Note 11 ไปได้เกือบสัปดาห์ก็บอกได้เลยว่าคงจะได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนที่ไม่แรงจนเกินไปแต่ใช้งานได้เต็มเครื่อง (แค่หน้าจอจริงๆ) AMOLED DotDisplay 90Hz และกล้อง 50 ล้านพิกเซล คุ้มค่า และมีชิป Snapdragon 680 ให้เกมเมอร์ได้เล่นมากยิ่งขึ้น (ไม่รวมลำโพงคู่) หรือใครที่เคยใช้ซีรีส์ Redmi Note น่าจะรู้ถึงคุณค่าของตระกูลนี้ ส่วนวาทกรรมก็ยังไม่มีอะไรไม่ประทับใจ เพราะราคาไม่ถึง 7,000 บาท สเปกระดับนี้ถือว่าคุ้มค่าเงินจริงๆ
